ทร่วง | ดู ส้วง |
ทราง | ดู ซาง |
ทวดึงษาการ, ทวดึงสาการ, ทวัตดึงสาการ, ทวัตติงสาการ | ดู อาการ ๓๒ |
ทวาทศอาโป | [ทะวาทดสะอาโป] น. ธาตุน้ำ ๑๒ ประการ ได้แก่ น้ำดี (ปิตตัง) เสมหะหรือเสลด (เสมหัง) หนอง (บุพโพ) เลือด (โลหิตัง) เหงื่อ (เสโท) มันข้นหรือไขมัน (เมโท) น้ำตา (อัสสุ) มันเหลวหรือน้ำเหลือง (วสา) น้ำลาย (เขโฬ) น้ำมูก (สิงฆานิกา) ไขข้อ (ลสิกา) และปัสสาวะ (มุตตัง) (มาจากคำ ทวาทศะ แปลว่า สิบสอง และ อาโป แปลว่า น้ำ) |
ทันตา | น. ฟัน เป็นองค์ประกอบ ๑ ใน ๒๐ สิ่งของธาตุดิน |
ทับหม้อเกลือ | ก. เอาหม้อเกลือที่ตั้งไฟให้ร้อน วางบนใบพลับพลึงหรือใบละหุ่ง ซึ่งวางบนผ้าดิบ แล้วห่อรวบชายผ้าทำเป็นกระจุกสำหรับถือ นาบบนหน้าท้อง หัวหน่าว เอว สะโพก ขาหนีบ และตามตัวของหญิงหลังคลอด เพื่อเร่งให้มดลูกเข้าอู่ ขับน้ำคาวปลา และลดคามตึงตัวของกล้ามเนื้อ, นาบหม้อเกลือ ก็เรียก |
ท้ายทอย | น. ส่วนสุดของกะโหลกศีรษะด้านหลัง |
ทุ่ม | น. วิธีนับเวลาตามประเพณีสำหรับ ๖ ชั่วโมงแรกของกลางคืน ตั้งแต่ ๑๙ นาฬิกา ถึง ๒๔ นาฬิกา เรียกว่า ๑ ทุ่ม ถึง ๖ ทุ่ม, แต่ ๖ ทุ่ม นิยมเรียกว่า สองยาม |
ทุราวสา, ทุราวะสา ๔ | ดู ทุลาวะสา, ทุลาวะสา ๔ |
ทุราวสา ๑๒, ทุลาวะสา ๑๒ | "น. ๑. ความผิดปรกติของน้ำปัสสาวะ ๓ จำพวก คือ ความผิดปรกติของน้ำปัสสาวะที่เกิดเฉพาะในผู้ชาย ซ่งมี ๔ ประเภท (น้ำปัสสาวะสีขาวขุ่นคล้ายน้ำข้าวเช็ด สีเหลืองคล้ายน้ำขมิ้นสด สีแดงคล้ายน้ำฝาง และสีดำคล้ายน้ำครำ) จำพวกหนึ่ง, ที่เกิดได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงอีก ๔ ประเภท (มุตฆาต ๔) จำพวกหนึ่ง, และที่เกิดเฉพาะในผู้หญิง ๔ ประเภท (มุตกิต ๔) อีกจำพวกหนึ่ง ดังตำรายาศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม [๔/๓๗] ตอนหนึ่งว่า ""... ทุราวสา ๑๒ นั้น คือน้ำปัสสาวะ ๔ มุตคาด ๔ มุตกิด ๔ เป็น ๑๒ ประการดังนี้ ..."" ๒. คัมภีร์การแพทย์แผนไทยฉบับหนึ่ง ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่งมีเนื้อหาสำคัญว่าด้วยความผิดปรกติของน้ำปัสสาวะและยาที่ใช้แก้" |
ทุลาวะสา, ทุลาวะสา ๔ | น. ๑. ความผิดปรกติของน้ำปัสสาวะพวกหนึ่งเกิดกับผู้ชาย ผู้ป่วยมีอาการปวดหัวหน่าว เจ็บขัดแสบองคชาตเวลาถ่ายปัสสาวะ น้ำปัสสาวะอาจมีสีและลักษณะต่างกันได้ ๔ แบบ คือ สีขาวขุ่นคล้ายน้ำข้าวเช็ด สีเหลืองคล้ายน้ำขมิ้นสด สีแดงคล้ายน้ำฝาง และสีดำคล้ายน้ำครำ ดังคัมภีร์มุจฉาปักขันทิกา [๒/๒๙๔] ตอนหนึ่งว่า "... ทีนี้จะว่าด้วยทุลาวะสา ๔ ประการ คือ ว่าด้วยน้ำปัศสาวะ ๔ ประการ คือน้ำมูตรเมื่อออกมานั้นขาวข้นดังน้ำเข้าเชด ถ้าเหลืองดังน้ำขมิ้นสด ถ้าเปนโลหิตสด ๆ ก็ดีแดงดังน้ำฝางต้มก็ดี ดำดังน้ำครามก็ดี ย่อมให้ปวดหัวเหน่าให้แสบองคชาติ ให้สบัดร้อนสะบัดหนาวเปนเวลา มีประการต่าง ๆ ..." เขียนว่า ทุราวสา หรือ ทุราวะสา ๔ ก็มี |
ทุวรรณโทษ, ทุวันโทษ | [ทุวันโทด] ว. อันเกิดจากกองสมุฏฐานปิตตะ วาตะ หรือเสมหะ ๒ ใน ๓ กองสมุฏฐานร่วมกันกระทำให้เกิดโทษ เช่น ไข้ทุวันโทษวาตะและเสมหะ เกิดจากกองสมุฏฐานวาตะและเสมหะกระทำร่วมกัน |
โทษ | [โทด, โทดสะ] น. ความผิดปรกติอันเกิดจากการเสียสมดุลของกองสมุฏฐานปิตตะ วาตะ และเสมหะ |
โทสันฑฆาต, โทสันทฆาต, โทสันทะฆาฎ | [โทสันทะคาด] น. โรคชนิดหนึ่งที่เกิดจากการกระทบกระแทกอย่างแรงจนชอกช้ำ เป็นอาการต่อเนื่องจากการกระทบกระแทกอย่างแรงจนชอกช้ำ เป็นอาการต่อเนื่องจากเอกสันฑฆาต เกิดอาการท้องผูกจนเป็นพรรดึก เกิดเป็นกองลมเข้าไปอยู่ในท้อง ทำให้เจ็บปวดไปทั้งตัว มีอาการเมื่อยบั้นเอว ขัดตะโพก เวียนศีรษะ สะบัดร้อนสะท้านหนาว เป็นต้น ดู สัณฑฆาต ประกอบ |
ข้อมูลจาก พจนานุกรม ศัพท์แพทย์และเภสัชกรรมแผนไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พิมพ์ครั้งที่ ๒